ปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดกำลังประสบปัญหาการเลี้ยงและการจำหน่าย ซึ่งโดยทั่วไปจะมีการจำหน่ายแบบแช่แข็งและตัวสด โดยแบบ “แช่แข็ง” มีปัญหาเรื่องต้นทุนที่ใช้ในการเก็บรักษาจึงทำให้มีต้นทุนที่สูง ส่วนแบบ “ตัวสด” จะมีข้อจำกัดเกี่ยวกับอายุการเก็บรักษา เพราะจิ้งหรีดเวลาออกไข่แล้วก็จะตายไป คณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด โดย ผศ.นนทนันท์ พลพันธ์, ผศ.ดร.อรอนงค์ ภูสีฤทธิ์ และ ผศ.ดร.สุชีลา ตาลอำไพ ซึ่งได้รับทุนวิจัยสนับสนุนจากทางสำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) จึงได้นำปัญหาด้านการจัดการและการจำหน่ายจิ้งหรีด มาพัฒนา “เครื่องอบแห้งระบบปั๊มความร้อน” เพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์จิ้งหรีดอบแห้ง จึงทำให้เกิดการเพิ่มมูลค่าการจำหน่ายจิ้งหรีดให้กับเกษตรกรในพื้นที่บ้านโพนโพธิ์ ตำบลเกษตรวิสัย อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
หากเปรียบเทียบแบบขายสดและแบบแช่แข็ง จะมีราคาขายอยู่ประมาณ 90-120 บาท/กิโลกรัม ขณะที่แบบอบแห้งราคาจะอยู่ที่ 1,000 บาท/กิโลกรัม และยังต่อยอดแปรรูปได้อย่างหลากหลาย เช่น นำไปปรุงรสเป็นสแน็ค บดละเอียดเป็นโปรตีนผงทางเลือกสำหรับใส่อาหาร ทำซุปหรือโจ๊ก เป็นต้น ซึ่งการเลี้ยงจิ้งหรีดของเกษตรกร จะใช้ระยะเวลาประมาณ 45 วันต่อ 1 รุ่นหรือ 1 รอบการผลิต เลี้ยงในบ่อเลี้ยงขนาด 120 ซม. x 2.40 เมตร จะได้ผลผลิตต่อครั้งอยู่ราว 20-25 กิโลกรัม/บ่อ
เป้าหมายการพัฒนา
ลักษณะฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดของเกษตรกร
การแปรรูปจิ้งหรีดอบแห้ง โดยใช้เครื่องอบแห้งระบบปั๊มความร้อน ทำให้สามารถเก็บรักษาจิ้งหรีดได้นานขึ้นแรมปี โดยสามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิแบบเย็นหรือเก็บในตู้เย็นได้ จิ้งหรีดอบแห้งยังสามารถนำมาปรุงเป็นเมนูต่าง ๆ และเมื่อมีการนำไปบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่มีการใช้ตราสัญลักษณ์ที่พัฒนาขึ้นแล้ว ยิ่งทำให้เกิดการเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจต่อผู้บริโภคมากขึ้น และเครื่องอบแห้งระบบปั๊มความร้อนนี้ ยังมีการขยายผลการใช้งานในมิติอื่น ๆ เช่น การอบแห้งกล้วย ลำไย และสินค้าทางการเกษตรอบแห้งอื่น ๆ เป็นต้น
ผลลัพธ์ของการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์จิ้งหรีดอบแห้ง
การพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องอบแห้งระบบปั๊มความร้อน นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์จิ้งหรีดอบแห้ง ที่สร้างมูลค่าสูงให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยง มีการขยายผลและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรูปแบบและรสชาติ เช่น ข้าวเกรียบจิ้งหรีด น้ำพริกเผาจิ้งหรีด และโจ๊กจิ้งหรีด เป็นต้น ทั้งนี้ จิ้งหรีดอบแห้งช่วยยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยง ส่งผลให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ในอนาคต








ภาพจาก : ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/smes/detail/9650000103003